มารู้จักกับไพ่แบล็คแจ็คและวิธีการเล่นสำหรับมือใหม่

ไพ่แบล็คแจ็ค

ไพ่แบล็คแจ็คมีวิธีในการเล่นหลักๆก็คือ หากมีผู้เล่นคนใดได้แต้มในมือเท่ากับ 21 แต้มที่ถือว่าเป็นแต้มที่สูงที่สุดในเกมส์ หรือมีแต้มใกล้เคียง 21 แต้มมากที่สุด ก็จะเป็นผู้ที่ชนะเดิมพัน

และด้วยการที่ไพ่แบล็คแจ็คก็เป็นเกมส์ไพ่ในระดับตำนานเกมส์หนึ่งที่มีผู้นิยมสูง ไพ่แบล็คแจ็คจึงเป็นอีกหนึ่งในเกมส์ไพ่ที่ได้ถูกบรรจุลงในโลกของคาสิโนออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกสบาย และสามารถเข้าถึงการพนันไพ่แบล็คแจ็คได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบเกมส์ไพ่แบล็คแจ็คนี้

และเชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อไพ่แบล็คแจ็คมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้จักว่ามันมีวิธีในการเล่นอย่างไร ฟังจากชื่อแล้วรู้สึกเหมือนมันต้องเล่นยากแน่ๆ ซึ่งในความเป็นจริงไพ่แบล็คแจ็คเป็นเกมส์ไพ่ที่เล่นง่าย และเข้าใจได้ไม่ยากนัก

เพราะเพียงแค่คุณมีแต้มอยู่ในมือเท่ากับหรือใกล้เคียง 21 แต้มคุณก็จะเป็นฝ่ายที่ชนะเดิมพันในทันที ดังนั้นในวันนี้เราก็จะมาอธิบายวิธีการเล่นและกฏกติกาต่างๆให้คุณได้ทำความรู้จักกับการเล่นไพ่แบล็คแจ็คกันมากยิ่งขึ้น

กติการในการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค สำหรับกติกาในการเล่นไพ่แบล็คแจ็คนั้น เป็นการเดิมพันระหว่างผู้เล่นและเจ้ามือ และแต้มของผู้เล่นด้วยกันจะไม่มีผลการได้เสียใดๆ มีหลักในการเล่นง่ายๆก็คือ หลังจากที่เจ้ามือได้ทำการแจกไพ่จนครบตามจำนวนผู้เล่นแล้ว

คุณสามารถเรียกจั่วไพ่ได้อย่างไม่จำกัดจำนวนครั้ง จนกว่าจะได้แต้มที่ใกล้เคียงหรือเท่ากับ 21 แต้ม แต่หากเป็นการจั่วไพ่จนได้แต้มเกิน 21 แต้มเท่ากับคุณจะแพ้และเสียเงินเดิมพันในทันที และในการจั่วไพ่ของเจ้ามือหากเจ้ามือได้แต้ม 17 แต้มขึ้นไป เจ้ามือจะไม่สามารถจั่วไพ่ได้

การนับแต้มของไพ่แบล็คแจ็ค

  1. ไพ่ 2-10 จะมีจำนวนแต้มตามตัวเลขหน้าไพ่
  2. ไพ่ J, Q, K จะมีจำนวนแต้มเท่ากับ 10 แต้ม
  3. ไพ่ A จะมีจำนวนแต้มเท่ากับ 1 หรือ 11 แต้ม นั่นขึ้นอยู่กับจำนวนแต้มในมือในขณะนั้นว่ามีแต้มรวมเท่าไหร่
  4. หากแต้มรวมได้เท่ากับ 21 แต้ม เรียกว่า แบล็คแจ็ค

แต่ในกรณีที่ทำการแยกไพ่คู่ A แล้วได้แต้ม 21 แต้ม จะไม่ถือว่าเป็น แบล็คแจ็ค เพราะการได้แบล็คแจ็คต้องเป็นการได้แต้มสองใบแรกรวมกันเท่านั้น

ไพ่แบล็คแจ็ค

วิธีในการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค

  • การประกันไพ่ ในกรณีที่เจ้ามือเปิดไพ่ใบแรกมาเป็นไพ่ A ก็จะมีการประกันไพ่เกิดขึ้น เพื่อเป็นการประกันไพ่หากเจ้ามือได้ไพ่แบล็คแจ็ค หากคุณได้ทำการประกันไพ่ไว้แล้วเจ้ามือได้ไพ่แบล็คแจ็ค ก็จะได้รับเงินเดิมพันครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพัน แต่หากเจ้ามือไม่ได้ไพ่แบล็คแจ็คเกมส์ก็จะดำเนินต่อไปตามปรกติ แต่หากออกแต้มเสมอคุณก็จะได้รับเงินคืน
  • การเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่า หากไพ่สองใบแรกของเจ้ามือไม่ใช่ไพ่แบล็คแจ็ค คุณสามารถเพิ่มเงินเดิมพันขึ้นเป็นสองเท่าได้ แต่คุณจะจั่วไพ่ได้เพียงแค่ใบเดียวเท่านั่น แต่หากไม่เพิ่มเงินเดิมพันคุณก็จะสามารถจั่วไพ่เพิ่มได้ตามปรกติ และหากเลือกอยู่ก็จะไม่สามารถจั่วไพ่เพิ่มได้อีก
  • การแยกไพ่คู่ หากไพ่สองใบแรกของคุณเป็นไพ่คู่ เช่น 3, 3 / 5, 5 / 6, 6 คุณสามารถที่จะแยกไพ่ได้ออกเป็นสองมือได้ โดยจะต้องวางเงินเดิมพันให้เท่ากับเงินเดิมพันที่วางไว้ อย่างเช่น คุณวางเดิมพันไว้ 100 บาท หากมีการแยกไพ่เป็นสองมือ นั่นเท่ากับว่าคุณต้องวางเดิมพันเป็นมือละ 100 บาทนั่นเอง การการเลือกเล่นแบบแยกไพ่นั้นคุณสามารถเดิมพันได้ตามปรกติ ทั้งการจั่วไพ่ หรือเลือกอยู่

อัตราการจ่ายของไพ่แบล็คแจ็ค

  • หากคุณสามารถเอาชนะเดิมพันด้วยแต้มที่สูงกว่าเจ้ามือ จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:1 เท่า
  • หากคุณสามารถเอาชนะเดิมพันด้วยการได้ 21 แต้ม หรือแบล็คแจ็ค จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:5 เท่า
  • การวางเงินประกันไพ่หากเจ้ามือได้ไพ่ A หากคุณจะทำการประกันไพ่ คุณต้องวางเงินเดิมพันเป็นหนึ่งเท่า และหากเจ้ามือเกิดได้ไพ่แบล็คแจ็คขึ้นมาจริงๆ คุณจะได้รับเงินที่มีอัตราจ่าย 2:1 แต่หากเจ้ามือไม่ได้ไพ่แบล็คแจ็ค คุณจะเสียเงินประกันทั้งหมด

หากคุณได้ไพ่ A เป็นใบแรกคุณจะเลือกเก็บเงินก่อนก็ได้ ไม่ว่าคุณจะได้แต้มรวมเท่าไหร่ก็ตาม จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:1 เท่า

ไพ่แบล็คแจ็ค

คำศัพท์ในการเล่นไพ่แบล็คแจ็คที่คุณต้องรู้

  • Blackjack คือไพ่สองใบแรกในมือที่รวมกันแล้วได้เท่ากับ 21 แต้ม
  • Hit (สู้) คือ การจั่วไพ่เพิ่ม
  • Stand (อยู่) คือ ไม่จั่วไพ่เพิ่ม
  • Double down คือ การวางเงินเดิมพันเพิ่มขึ่นอีกหนึ่งเท่าตัว ซึ่งจะสามารถใช้ในกรณีที่แจกไพ่สองใบแรกเท่านั้น
  • Split คือ ในกรณีที่ไพ่สองใบแรกเปิดมาเป็นไพ่คู่ จะสามารถแยกไพ่ออกเป็นสองกองได้
  • Surrender คือ เป็นการกดยอมแพ้ในตานั้น และจะได้รับเงินเดิมพันคืนครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะสามารถใช้ในกรณีที่แจกไพ่สองใบแรกเท่านั้น
  • Insurance คือ คุณสามารถเพิ่มเงินเดิมพันเพื่อสู้กับไพ่ของเจ้ามือ ในกรณีที่ไพ่ใบแรกของเจ้ามือได้ A ซึ่งมีกาสที่เจ้ามือจะชนะสูง โดยสามารถเพิ่มเงินสู้ได้ครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินที่วางดิมพันไว้ ซึ่งหากเจ้ามือชนะโดยได้ไพ่แบล็คแจ็คคุณก็จะได้เงินที่วางเดิมพันจากการทำ Insurance แต่หากเจ้ามือไม่ได้ไพ่แบล็คแจ็คก็จะเสียเงินเดิมพันทีสู้กับเจ้ามือไป ซึ่งจะสามารถใช้ในกรณีที่แจกไพ่สองใบแรกเท่านั้น
  • Even Money คือ หากคุณได้ไพ่แบล็คแจ็ค และไม่ต้องการที่จะลุ้นสู้กับเจ้ามือ คุณสามารถเลือก Even Money หรือเก็บก่อนได้ซึ่งคุณก็จะได้รับเงินรางวัลที่อัตราจ่าย 1:1 แต่หากคุณไม่เลือกเก็บก่อน และอยากที่จะลุ้นสู้กับเจ้ามือ หากเจ้ามือได้แบล็คแจ็คก็จะเท่ากับเสมอกัน แต่หากเจ้ามือแพ้ก็จะได้รับเงินรางวัลที่อัตราการจ่าย 2:3

สิ่งที่คุณต้องรู้ไว้ก่อนเล่นไพ่แบล็คแจ็ค

  • ในกรณีที่ไพ่ของคุณมีแต้มเกิน 21แต้ม หรือที่เรียกว่า Busted จะถือว่าแพ้และเสียเงินเดิมพันทันที ไม่ว่าแต้มในมือของเจ้ามือจะมีเท่าไหร่ก็ตาม และนี่ถือเป็นกฏกติกาสากล
  • หากเจ้ามือมีแต้มน้อยกว่า 16 แต้ม จะต้องทำการจั่วไพ่ไปเรื่อยๆ จนเมื่อเจ้ามือมีแต้มเท่ากับหรือมากกว่า 17 แต้ม ก็จะไม่สามารถจั่วไพ่ได้อีก
  • คุณสามารถที่จะเลือกจั่วไพ่ หรือจะเลือกอยู่ก็ได้ โดยที่จะไม่มีจำนวนแต้มมาบังคับจั่วเหมือนทางฝั่งเจ้ามือ
  • หากคุณตัดสินใจไม่ทันว่าจะจั่วไพ่ หรือในกรณีอื่นๆ ให้ทันเวลา คุณจะถูกบังคับให้อยู่โดยทันที

blackjack ufabet

รูปแบบการวางเดิมพันในแบบต่างๆของไพ่แบล็คแจ็ค

ในการเล่นไพ่แบล็คแจ็คนั้นยังมีการเดิมพันในรูปแบบอื่นอีก หรือที่เรียกว่าการเดิมพันข้างเคียง หรือ Bet Side อีกด้วย นั่นจึงทำให้การเล่นไพ่แบล็คแจ็คนั้นเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก เพราะมันจะมีตัวเลือกในการเดิมพันเพิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ทั้งในรูปแบบการเดิมพันแบบ 21+3, Perfect Pair, Bet Behind ซึ่งเราจะมาอธิบายให้คุณทำความรู้จักกับเกมส์ไพ่แบล็คแจ็คกันให้มากยิ่งขึ้น และรูปแบบต่างๆมีดังต่อไปนี้

  • การวางเดิมพันในรูปแบบ Perfect Pair จะเป็นรูปแบบการเดิมพันที่จะสามารถทำให้คุณเพิ่มโอกาสในการชนะเพียงแค่ไพ่สองใบแรกเท่านั้น แต่ไพ่สองใบแรกของคุณจะต้องเป็นไพ่คู่ ตัวอย่างเช่น 5-5, 6-6, 7-7, Q-Q นั่นเอง
  • ไพ่คู่ทั้งสองใบที่เหมือนกันเป็นไพ่ดอกเดียวกัน เช่น เป็นไพ่ K โพธิ์ดำทั้งสองใบ และจะมีอัตราในการจ่ายที่ 25:1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
  • ไพ่คู่ทั้งสองใบที่เหมือนกันเป็นไพ่ที่มีสีเหมือนกันทั้งสองใบ เป็นไพ่คนละดอกกันได้ เช่น 5 โพธิ์แดง และ 5 ข้าวลามตัด และจะมีอัตราในการจ่ายที่ 12:1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
  • คู่ผสม คือจะเป็นไพ่คู่ที่มีแต้มเหมือนกันแต่ดอกคนละสี เช่น 4 โพธิ์ดำ และ 4 โพธิ์แดง และจะมีอัตราในการจ่ายที่ 6:1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
  • การวางเดิมพันในรูปแบบ 21+3 จะเป็นรูปแบบที่ไพ่ในมือของคุณมีโอกาสที่จะเป็น ไพ่ตองเหมือน, ไพ่สเตรทฟลัช, ไพ่ตอง, ไพ่สเตรท, ไพ่ฟลัช และหากคุณสามารถเอาชนะไม่ว่าจะในรูปแบบใดได้ ก็จะสามารถได้รับเงินรางวัลเป็นอัตราการจ่ายหลายต่อเลยทีเดียว
  • ไพ่ตองเหมือน คือ การที่คุณมีไพ่ที่เหมือนกันทั้งแต้มและดอกทั้งสามใบ อย่างเช่น Q โพธิ์ดำทั้งสามใบ และจะมีอัตราในการจ่ายที่ 100:1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
  • ไพ่สเตรทฟลัช คือ การที่ไพ่ทั้งสามใบของคุณมีไพ่ที่มีแต้มเรียงกัน และเป็นดอกเดียวกัน เช่น J Q K โพธิ์แดง และจะมีอัตราในการจ่ายที่ 40:1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
  • ไพ่ตอง คิอ การที่คุณมีไพ่ที่เหมือนกันทั้งสามใบแต่คนละดอก เช่น 333 และทั้งสามใบเป็นคนละดอกกัน และจะมีอัตราในการจ่ายที่ 30:1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
  • ไพ่สเตรท คือ การที่ไพ่ทั้งสามใบของคุณมีไพ่ที่มีแต้มเรียงกัน แต่คนละดอกกัน เช่น 4 โพธิ์ดำ 5 ดอกจิก 6 โพธิ์แดง และจะมีอัตราในการจ่ายที่ 10:1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
  • ไพ่ฟลัช คือ คือ การที่ไพ่ทั้งสามใบของคุณมีดอกเดียวกัน เช่น 5 โพธิ์แดง 6 โพธิ์แดง 7 โพธิ์แดง และจะมีอัตราในการจ่ายที่ 5:1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
  • การวางเดิมพันในรูปแบบ Bet Behind คือ การวางเดิมพันไพ่ในมือของผู้อื่น ซึ่งคุณสามารถที่จะชนะเดิมพันจากไพ่ของผู้เล่นคนอื่นได้ ซึ่งคุณสามารถลงเงินเพื่อเดิมพันตามไพ่ในมือของผู้อื่นได้ แต่จะไม่สามารถจั่วไพ่ หรือทำอะไรก็แล้วแต่ได้เลย คุณสามารถทำได้เพียงวางเงินเดิมพันเท่านั้น

Q&A มารู้จักกับไพ่แบล็คแจ็คและวิธีการเล่นสำหรับมือใหม่

Q : การตัดสินในการแพ้ชนะเดิมพันของไพ่แบล็คแจ็คคืออะไร

A : หากมีผู้เล่นคนใดได้แต้มในมือเท่ากับ 21 แต้มที่ถือว่าเป็นแต้มที่สูงที่สุดในเกมส์ หรือมีแต้มใกล้เคียง 21 แต้มมากที่สุด ก็จะเป็นผู้ที่ชนะเดิมพัน

Q : ในกรณีที่ทำการแยกไพ่คู่ A แล้วได้แต้ม 21 แต้ม ถือว่าเป็นการได้แต้มแบล็คแจ็คหรือไม่

A : การแยกไพ่คู่ A แล้วได้แต้ม 21 แต้ม จะไม่ถือว่าเป็น แบล็คแจ็ค เพราะการได้แบล็คแจ็คต้องเป็นการได้แต้มสองใบแรกรวมกันเท่านั้น

Q : การแยกไพ่คู่ จะต้องวางเดิมพันเช่นไร

A : หากไพ่สองใบแรกเป็นไพ่คู่ เช่น 3, 3 / 5, 5 / 6, 6 ก็สามารถที่จะแยกไพ่ได้ออกเป็นสองมือได้ โดยจะต้องวางเงินเดิมพันให้เท่ากับเงินเดิมพันที่วางไว้ อย่างเช่น วางเดิมพันไว้ 100 บาท หากมีการแยกไพ่เป็นสองมือ นั่นเท่ากับว่าต้องวางเดิมพันเป็นมือละ 100 บาทนั่นเอง การการเลือกเล่นแบบแยกไพ่นั้นสามารถเดิมพันได้ตามปรกติ ทั้งการจั่วไพ่ หรือเลือกอยู่

สรุปมารู้จักกับไพ่แบล็คแจ็คและวิธีการเล่นสำหรับมือใหม่

ไพ่แบล็คแจ็คเป็นเกมส์ไพ่ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และเป็นที่นิยมกันอย่างมากในฝั่งยุโรป เป็นเกมส์ไพ่ที่เล่นสนุกเพราะต้องมีผู้ร่วมเล่นหลายคน ไพ่แบล็คแจ็คเป็นเกมส์ไพ่ที่มีวิธีในการเล่นที่ง่าย และหากถ้าคุณอยากเล่นไพ่แบล็คแจ็คในแบบง่ายง่าย และได้เงินมากแถมยังมีโปรโมชั่นอีกมากมายบอกเลยว่าที่นี่ ufabet ตรงจุดและครบทุกวงจรที่คุณต้องการ สมัครสมาชิก UFABET